CASINO ONLINE

CASINO ONLINE
CASINO ONLINE

Thursday, October 31, 2019

จุดเสี่ยงหลังคารั่ว รีบซ่อมก่อนฝนตก ป้องกันน้ำไหลซึมเพดานและผนัง



 มาดูจุดเสี่ยงที่มักเกิดรอยรั่วบนหลังคา เกิดจากสาเหตุอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง มาดู จุดเสี่ยงหลังคารั่ว ที่ควรซ่อมแซมก่อนน้ำรั่วซึมเข้าผนังและเพดาน

รอยรั่วบนหลังคา ต้นเหตุอาจจะเกิดจากรูเล็ก ๆ แต่ทว่ากลับสร้างปัญหามากมาย เพราะหากมีน้ำฝนรั่วเข้ามาในบ้าน ไม่ได้ทำให้ข้าวของเสียหายอย่างเดียว แต่น้ำฝนที่ซึมไปตามฝ้าเพดานและผนังยังทำให้เกิดความชื้นและมีเชื้อรา ตามมาด้วยเหล่าแมลงและสัตว์น้อยใหญ่เข้ามาทำรัง อีกทั้งยังส่งผลถึงโครงสร้างบ้านอีกต่างหาก ฉะนั้นก่อนที่อะไร ๆ ในบ้านจะเสียหายไปมากกว่านี้มาดูกันว่ามีส่วนไหนที่มักจะเกิดรอยรั่ว สังเกตอย่างไร และจะแก้ไขอย่างไรกันค่ะ

1. อุปกรณ์ยึดหลังคาเสื่อมสภาพ
          หากเริ่มสังเกตเห็นแสงลอดลงมาจากรูเล็ก ๆ บนหลังคาหรือมีคราบน้ำซึมเป็นทางหลังฝนตกละก็ เป็นไปได้ว่ามีรอยรั่วบริเวณสกรูยึดหลังคา ซึ่งเกิดจาก 2 สาเหตุด้วยกันคือ หัวสกรูไม่ได้ถูกซ่อนไว้ในหลังคาหรือแหวนยางรองเสื่อมสภาพ เลยทำให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ที่ทำให้น้ำฝนไหลซึมเข้ามาตามหลังได้ ซึ่งวิธีแก้ไขสำหรับปัญหานี้ก็ไม่ยาก ทำได้โดยการเปลี่ยนเซตสกรูใหม่ที่มีแหวนรองยาง แล้วทาวัสดุกันซึมเสริมกันน้ำอีกชั้น แต่ทั้งนี้ควรระมัดระวังในการเปลี่ยนสักนิด เพราะหากยิงสกรูแรงเกินไปก็อาจทำให้แหวนยางรองขาดหรือวัสดุมุงหลังคาแตกได้

2. กระเบื้องหลังคามีรอยร้าว
          วิธีสังเกตรอยรั่วคล้าย ๆ กับปัญหาแรก แต่แตกต่างกันตรงที่หากมีรอยรั่วตรงสกรูจะเห็นแสงเป็นจุดเล็ก ๆ ในขณะที่หากกระเบื้องหลังคามีรอยร้าว จะเห็นช่องแสงเป็นทางยาวตามรอยแตก ซึ่งสาเหตุนั้นก็เกิดจากมีสิ่งของตกลงมากระแทก การเจาะกระเบื้องแรงเกินไป มุงหลังคาไม่สลับแนว หรือระยะทับซ้อนของกระเบื้องไม่เหมาะสม ทั้งนี้หากจะเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ควรใช้กระเบื้องรุ่นเดิมเพื่อให้เข้ากับแนวลอนหลังคาเก่า หรือซ่อมแซมด้วยอะคลิลิกกันซึมทาปิดบริเวณที่มีรอยแตก


3. มีรูรั่วที่สันครอบหลังคา
          ถือเป็นบริเวณที่สังเกตเห็นได้ยาก เพราะเป็นส่วนที่อยู่ภายนอก กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนมีน้ำรั่วเข้ามาในบ้าน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้บริเวณนี้มีปัญหา ได้แก่ ติดตั้งสันครอบหลังคาผิดวิธี ทำให้เกิดช่องโหว่ระหว่างที่ครอบกับหลังคา วางแนวกระเบื้องตรงรอยต่อห่างกันเกินไป หรือมีรอยร้าวที่ปูนปั้นใต้สันครอบหลังคา ถ้าไม่อยากเสียเวลารื้อสันครอบหลังคาแล้วติดตั้งใหม่ ให้ปิดรอยแตกด้วยปูนและทาวัสดุกันซึม เช่น น้ำยาอะคริลิกเพื่อป้องกันน้ำไว้อีกชั้น แต่ถ้าหากมีปัญหาที่ปูนปั้นให้สกัดปูนเก่าออกแล้วฉาบปูนใหม่เข้าไป

4. รอยต่อส่วนต่อเติมมีปัญหา
          สำหรับบ้านที่มีการต่อเติมโครงสร้างออกไป อย่างเช่น ห้องครัวหลังบ้านหรือโรงรถ มักจะมีรอยรั่วระหว่างหลังคากับผนังตรงส่วนที่เรียกว่า ปีกคลส. หรือปีกคอนกรีตเสริมเหล็ก มีรอยร้าวหรือไม่ประสานกับผนังบ้าน ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุก็คือต่อเติมแบบไม่ใช้ปีกคลส. เลยทำให้เกิดช่องว่างและฝนตกรั่วลงมา ทั้งนี้สามารถแก้ไขโดยใช้วัสดุกันซึมทาปิดรอยรั่วระหว่างส่วนต่อเติมกับผนังบ้าน ก็จะช่วยป้องกันบ้านช่วงหน้าฝนได้อีกทางหนึ่ง

5. โครงสร้างผุหลังคาแอ่น
          อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดรอยรั่วบนหลังคาก็คือ หากสังเกตุเห็นหลังคาเริ่มผิดรูป ก็เป็นไปได้ว่าโครงสร้างหลังคาเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากผ่านการใช้งานมาหลายปี รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ เช่น โครงเหล็กเป็นสนิมจนผุ หรือแมลงกินโครงไม้จนทรุด ทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักหลังคาไม่ไหวจนเริ่มเสียทรงและเกิดช่องว่างระหว่างรอยต่อของกระเบื้องมุงหลังคา แต่เนื่องจากเป็นปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง ซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ยาก ดังนั้นจึงควรปรึกษากับวิศกร เพื่อแก้ไขได้ตรงจุด

          หลังคารั่ว อาจจะเกิดรูเล็ก ๆ แต่ก็สร้างปัญหาใหญ่ได้ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเมื่อน้ำฝนไหลซึมเข้าบ้านนั้น ไม่ได้ทำให้บ้านสกปรกอย่างเดียว แต่ยังทำให้ของในบ้านเสียหาย และอาจจะเกิดเชื้อราตามมาอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นหากรู้แล้วว่ามีจุดเสี่ยงตรงไหนบ้าง ก็อย่าลืมซ่อมแซมกันนะคะ

Wednesday, October 30, 2019

เลือกหิน กรวด ให้เหมาะกับการจัดสวน


ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนสไตล์ไหน หินกรวดมักได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้ตกแต่งสวนอยู่เสมอ ลองมาดูกันว่าสวนสไตล์ไหนควรเลือกใช้หินกรวดอย่างไร


หินกรวด เป็นก้อนหินขนาดเล็กที่นิยมนำมาใช้ตกแต่งสวน โดยมีหลายรูปแบบ หลากโทนสี ทั้งรูปทรงกลมมนขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และชนิดเหลี่ยม มีให้เลือกทั้งสีขาว สีเทา และแบบคละสีตามธรรมชาติ โดยนิยมนำมาใช้ตกแต่งตามแนวทางเดินหรือปิดบนโซนตะแกรงรางน้ำ เพื่อป้องกันหน้าดินกระเด็นออกนอกสวน และช่วยกรองเศษใบไม้ตกลงไปในร่องน้ำที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน ลองมาดูกันว่าสวนแบบไหนควรเลือกหินกรวดอย่างไรให้สวยงามเข้ากัน


แบบสวนสไตล์ไทย


 สำหรับบ้านที่มีการจัดสวนเรียบง่ายสไตล์ไทย โดยการเลือกใช้พรรณไม้ในท้องถิ่นที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภูมิอากาศตามฤดูกาล อาจมีการนำหินกรวดมาใช้ในการตกแต่งสวนสไตล์นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะนิยมเลือกใช้หินกรวดที่สามารถหาได้ง่ายทั่วไป อย่างหินที่ใช้ผสมดินทรายในการก่อสร้างบ้านและอาคาร โดยอาจนำมาโรยตกแต่งลงบนหน้าดิน เพื่อป้องกันดินกระเด็นออกนอกโซนสวน และช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้พื้นที่บริเวณมุมสวนของบ้านได้มากขึ้นกว่าเดิม

แบบสวนสไตล์อังกฤษ 


การจัดสวนสไตล์อังกฤษเป็นรูปแบบสวนที่ โดดเด่น ด้วยสีสันสดใสจากดอกไม้หลากสีและต้นไม้ที่มีรูปฟอร์มสวยงาม ภาพรวมของการจัดสวนสไตล์นี้จึงมาพร้อมดีไซน์ความน่ารักที่ อบอุ่น การเลือกใช้หินกรวดที่เหมาะสำหรับการจัดสวนสไตล์นี้จึงควรเป็นหินกรวดที่มีขนาดเล็ก รูปทรงกลมมน โดยมีโทนสีที่เป็นธรรมชาติอย่าง หินกรวดสีน้ำตาล หรือหินกรวดแม่น้ำแบบคละสี เพื่อเติมเต็มความสวยงามให้มุมสวนสไตล์อังกฤษดูอบอุ่น อ่อนโยน และเข้ากับพรรณไม้ในสวนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ความอ่อนหวานอย่างกลมกลืน

แบบสวนสไตล์โมเดิร์น 



การจัดสวนสไตล์โมเดิร์นที่โดดเด่นด้วยความทันสมัย มีการใช้เส้นสายที่เรียบน้อย ไม่มีงานดีไซน์ที่ยุ่งยากและซับซ้อน ซึ่งจะนิยมใช้โทนสีที่เรียบง่ายอย่างขาวและดำ เหมาะกับการเลือกใช้หินกรวดตกแต่งสวนที่มีโทนสีเฉดเดียวกันอย่าง ขาว เทา และดำ เพื่อเติมเต็มความเรียบเท่ในสวนโมเดิร์นให้สวยทันสมัย หากโทนสีที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเฉดสีเข้ม อาจรองพื้นด้วยหินกรวดที่มีเฉดสีสว่างขึ้น สามารถเลือกใช้หินกรวดขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ตามพื้นที่สวนที่มีอยู่ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างความสมบูรณ์แบบให้สวนโมเดิร์นทันสมัยเข้ากับตัวบ้านทุกมุมมอง

แบบสวนสไตล์ทรอปิคอล 


การจัดสวนสไตล์ทรอปิคอลเป็นรูปแบบสวนที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศในเขตร้อนชื้นของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากพรรณไม้ที่ใช้ในการจัดสวนส่วนใหญ่สามารถทนแดดและฝนได้ดี โดยรูปแบบการจัดสวนสไตล์นี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติของพืชพรรณไม้ ส่วนมากจะเป็นไม้ประดับชนิดไร้ดอกเป็นหลัก หรือหากต้องการเพิ่มสีสันก็จะนิยมปลูกด้วยพรรณไม้ที่มีลวดลายและสีสันของใบไม้ที่สวยงาม สำหรับหินกรวดที่เหมาะกับการนำมาตกแต่งสวนสไตล์นี้จะเป็นหินกรวดแม่น้ำแบบคละสีหรือเป็นโทนสีน้ำตาลก็ได้เช่นกัน ส่วนขนาดของก้อนหินสามารถใช้ได้ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ซึ่งจะนิยมตกแต่งร่วมกับการปูแผ่นพื้นหินทางเดินธรรมชาติ อย่างหินกาบ ก็สามารถเพิ่มความกลมกลืนให้มุมสวนงดงามเป็นธรรมชาติอย่างลงตัว

แบบสวนสไตล์ญี่ปุ่น 


แนวคิดในการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นส่วนมากจะผสมผสานไปด้วยองค์ประกอบแห่งธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งชีวิตจากการหลอมรวมหลักปรัชญาทางศาสนา เพื่อสื่อถึงความสงบ ร่มเย็น และสะท้อนสัจธรรมตามหลักปรัชญาของการใช้ชีวิต แนวทางในการจัดสวนจะมาในรูปแบบที่สื่อถึงความสงบนิ่ง ตกแต่งด้วยไม้พุ่ม ไม้ดัด อาจมีก้อนหินขนาดใหญ่วางประดับไว้เพื่อสื่อความหมายทางจิตวิญญาณความเชื่อในแบบเซน รวมถึงการตกแต่งด้วยหินกรวดขนาดเล็กที่มีโทนสีเรียบง่ายอย่างขาวและเทาที่มีความเป็นเอกลักษณ์

Tuesday, October 29, 2019

เลือกชนิดของผ้า เพื่อม่านตกแต่งบ้านสวย




 เมื่อคราวก่อนเราได้นำเสนอไอเดียเกี่ยวกับการเลือกชนิดของผ้าม่านไปตกแต่งบ้านกันแล้วจากบทความ เคล็ดลับเลือกผ้าม่าน ได้บ้านสวยไม่เปลืองงบ มาถึงคราวนี้จะพาไปรู้จักกับผ้าที่นำมาทำผ้าม่านกันบ้าง เผื่อว่าใครสนใจอยากเลือกชนิดของผ้าด้วยตนเองก่อนนำไปทำเป็นผ้าม่าน

สิ่งที่จะช่วยให้ผ้าม่านมีคุณภาพนั้นก็คือ ต้องคำนึงถึงความแข็งแรงและทนทาน ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าเป็นสำคัญ เราสามารถเลือกผ้าได้จากการดูความหนาแน่นและน้ำหนักผ้า ผ้าเนื้อยิ่งแน่น น้ำหนักจะยิ่งมาก ซึ่งแม้จะมีข้อดีในการป้องกันแสงแดดได้ดี และไม่ยุ่ยง่ายเมื่อนำมาตัดเป็นผ้าม่าน แต่มันจะเก็บกักฝุ่นและทำความสะอาดยาก คุณอาจลองทดสอบความหนาแน่นของเนื้อผ้าอย่างง่ายๆด้วยการยกมาส่องกับแสง ผ้าที่หนาแน่นมากจะแทบไม่มีแสงผ่านเลย นอกจากนี้ชนิดของสีที่นำมาย้อมหรือพิมพ์ผ้า ควรจะเป็นสีที่คงทนต่อแสง การซักรีด กรดด่างและฝุ่นละออง


แบบผ้าม่านเนื้อผ้าชนิดโปร่ง

เนื้อผ้าชนิดโปร่งเป็นเนื้อผ้าชนิดเบาบาง ส่วนใหญ่จะผสมพอลิเอสเตอร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ป้องกันแสงแดดได้เพียงเล็กน้อยเหมาะกับการแต่งบ้านที่ต้องการความโปร่งสบาย ซึ่งข้อดีของผ้าชนิดนี้ก็คือ เมื่อมีแสงสว่างส่องเข้ามาภายในบ้านจะทำให้บรรยากาศของการตกแต่งภายในห้องดูนวลตา สบายตาขึ้น ประหยัดไฟในช่วงตอนเวลากลางวัน และมักจะใช้ควบคู่กับเนื้อผ้าชนิดทึบแสง


แบบผ้าม่าน เนื้อผ้าชนิดทึบแสงในตัว

เนื้อผ้าชนิดทึบแสงในตัวหรือผ้าแบล็กเอ๊าต์ เนื่องจากมีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ดี จึงเหมาะกับบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มืดสนิท เช่นห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องนอน เป็นต้น เนื้อผ้าชนิดนี้ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติผสมกับใยสังเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยม


แบบผ้าม่านเนื้อผ้าชนิดที่แสงผ่านได้บ้าง

เนื้อผ้าชนิดที่แสงผ่านได้บ้าง เป็นชนิดที่มีเนื้อผ้าแบบมาตรฐานที่ใช้กันในปัจจุบัน มีคุณสมบัติกันแสงแดดได้ แต่
ทั้งนี้ความสามารถในการกันแสงจะขึ้นอยู่กับสีของเนื้อผ้านั้นๆด้วย เหมาะกับการตกแต่งภายในห้องนอนที่ไม่ต้องการความทึบมากค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นห้องนอนของเด็กๆ


นอกจากอุปกรณ์หลักทั้งหมดของม่านแล้ว ยังมีของประดับตกแต่งผ้าม่านอีก คือ เชือกรัดหรือรวบม่าน ซึ่งจะช่วยเก็บชายผ้าม่านให้สวยงามเป็นระเบียบ เชือกม่านนี้ คุณอาจใช้ผ้าม่านตัดเป็นชิ้นยาว ๆ รัดม่านไว้ หรือใช้ผ้าสีตัดกันกับม่าน หรือถ้าอยากให้ม่านดูสวยหรูคู่กับการตกแต่งบ้านของคุณ อาจหาเชือกเกลียวควั่นสวยๆ สลับสีมาเป็นเชือกม่านแทนผ้าธรรมดา ๆ ก็ได้ และถ้าคุณชอบม่านที่แหวกเปิดเป็นช่องสวยอยู่ตัว ควรทำขอเกี่ยวเชือกม่านที่ผนังข้างหน้าต่าง จะช่วยให้ม่านเปิดเป็นช่องโค้งสวย ไม่ตกลงมาตรง ๆ ข้างหน้าต่างหรืออาจใช้ขอเกี่ยว เกี่ยวม่านไปเลยถ้าไม่อยากมีอุปกรณ์ยุ่งยาก รู้คร่าวๆแบบนี้แล้วหากใครจะลองเลือกผ้ามาทำเป็นผ้าม่านเองก็ลุยเลยค่ะ

Monday, October 28, 2019

สิ่งที่ผู้เช่าไม่รู้ ทำแบบนี้อาจไม่ได้ “ค่าประกัน” ห้องคืน


เมื่อสถานะผู้เช่าของเรากำลังจะสิ้นสุดลง สิ่งหนึ่งที่เราต้องทวงถามจากผู้ให้เช่าคือเรื่องของเงินประกันค่าเสียหายของห้อง แต่หลายคนก็มีความกังวลว่าจะได้เงินเหล่านั้นคืนเต็มจำนวนหรือเปล่า โดยคุณอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ว่าระหว่างที่คุณเช่าห้องพักอยู่นั้นคุณได้ทำอะไรพลาดไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำนั้นอาจทำให้คุณไม่ได้เงินประกันค่าเสียหายคืน ลองมาเช็กกันดูก่อน

1.รอยไหม้บนเคาน์เตอร์
การไม่ได้ใช้ขาตั้งสามขาเพื่อใช้ตั้งของร้อนบนเคาน์เตอร์ อาจทำให้เคาน์เตอร์เกิดรอยไหม้ จนทำให้เกิดความเสียหายจนเจ้าของห้องพักต้องปรับเงิน

2.ทำความสะอาดอ่างอาบน้ำ หรือซิงก์ด้วยสารเคมีรุนแรง
สารเคมีที่รุนแรงสามารถทำให้สารเคลือบที่อ่างอาบน้ำ หรือซิงก์ล้างจานสึกกร่อนออกไปได้

3.สูบบุหรี่ในห้องพัก
กลิ่นบุหรี่จะติดอยู่ในห้องทั้งพรม ผ้าม่าน รวมถึงจะเปลี่ยนเพดานห้องจากสีขาวเป็นสีเหลือง

4.ไม่ใส่ใจรอยแตกเล็กๆ
หากพบรอยแยก หรือรอยแตกเล็กๆ ในห้อง ควรแจ้งผู้รับผิดชอบ หรือเจ้าของห้องให้รับทราบก่อนที่รอยแตกนั้นจะกลายเป็นรอยใหญ่ จนทำให้ในท้ายที่สุดคุณถูกปรับ

5.ใส่รองเท้าเดินไปรอบๆ ห้อง
การเดินด้วยรองเท้าแบบหนักๆ จะทำให้พื้นได้รับความเสียหายได้

6.ลืมใส่ที่รองขาเฟอร์นิเจอร์
ที่รองขาเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นั้นสามารถช่วยป้องกันการขูด ขีด หรือทำให้พื้นที่เป็นรอยได้

7.เทเศษขยะลงในท่อระบายน้ำ
คุณควรมีวิธีการกำจัดขยะต่างๆ อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะกากหรือเศษอาหารต่างๆ ห้ามเทลงในท่อระบายน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตัน

8.อาศัยอยู่กับสัตว์เลี้ยง
พวกเรารักพวกมันก็จริง แต่สัตว์เลี้ยงสามารถสร้างความเสียหายให้กับพื้นของห้อง รวมถึงยังอาจทำความเสียหายให้กับส่วนอื่นๆ ของห้องได้ด้วย

9.ทำความสะอาดหินอ่อนด้วยเบกกิ้งโซดา
การทำความสะอาดหินอ่อนด้วยเบกกิ้งโซดานั้น อาจทำให้พื้นหินอ่อนสึกกร่อน

10.วาดภาพบนผนัง
เหตุการณ์นี้อาจไม่ใช่ฝีมือคุณ แต่อาจเป็นเด็กๆ หรือลูกหลานของคุณ ดังนั้นควรระมัดระวังเรื่องการขีดเขียนผนังห้อง เพราะนี่คือเหตุผลที่ทำให้เสียค่าปรับบ่อยครั้งที่สุด


Sunday, October 27, 2019

ม่านบาหลี ไม้เลื้อยจัดสวน สำหรับทำซุ้มบังแดด



สำหรับใครที่อยากปลูกไม้เลื้อยเพื่อทำเป็นซุ้มสวย ๆ ไว้ประดับบ้าน มาทำความรู้จัก พร้อมดูข้อมูลการปลูกและการดูแลม่านบาหลี ไม้ทำซุ้มสุดสวยยอดฮิตกัน

         ซุ้มไม้เลื้อย ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียดี ๆ ในการจัดสวน เพราะนอกจากจะได้ร่มเงาและความร่มรื่นแล้ว เรายังสามารถเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของพันธุ์พืชที่ปลูกได้ด้วย ซึ่งถ้าหากจะพูดถึงพันธุ์ไม้ที่ผู้คนนิยมนำมาทำซุ้มอันดับต้น ๆ หลายคนต้องนึกถึงม่านบาหลีแน่ ๆ เนื่องจากพืชชนิดนี้มีรากที่สวยงามเป็นพิเศษ แถมยังปลูกง่าย และดูแลไม่ยาก ทว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักกับม่านบาหลีกันเท่าที่ควร ฉะนั้นวันนี้เรามาทำเจาะข้อมูลเบื้องต้นของม่านบาหลีกันค่ะ

ถิ่นกำเนิด

          ม่านบาหลี (ม่านบังตา, ม่านพระอินทร์) เป็นพืชไม้เลื้อย มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเขตร้อนในแถบเอเชียตะวันออกเชียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน และอินเดีย เนื่องจากเป็นไม้เลื้อยที่ปลูกง่าย โตเร็ว รากมีความพลิ้วไหวสวยงาม ช่วยกันแดดและให้ร่มเงาได้ ปัจจุบันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งต้นไม้จัดสวนยอดนิยม ที่คนส่วนใหญ่ปลูกทำซุ้มไม้ระแนงนั่นเอง



ลักษณะ

          ม่านบาหลีเป็นไม้เลื้อยขนาดกลาง สามารถเลื้อยได้ไกลประมาณ 6-9 เมตร มีความพิเศษอยู่ที่ราก ซึ่งเป็นเส้นสีแดงน้ำตาล ยาวประมาณ 3-8 เมตร ห้อยลงาด้านล่างมองดูคล้ายม่าน โดยถ้ารากย้อยถึงดินหรือน้ำ ก็สามารถดูดน้ำและอาหารเองได้ ส่วนใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม ผิวใบมันเล็กน้อย ปลายใบเรียว ฐานใบเว้าคล้ายรูปหัวใจ ขอบใบหยักเล็กน้อย และมีดอกสมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อรวมกันอยู่ตามซอกใบ เป็นสีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และจะออกดอกในช่วงพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ แต่พบได้ไม่มากนัก



วิธีปลูกม่านบาหลี

          การปลูกม่านบาหลีนั้น ทำได้โดยใช้วิธีการปักชำกิ่งลงในถุงดำ เมื่อเริ่มมีรากค่อยย้ายมาปลูกในกระถาง ใช้ดินได้ทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนที่สามารถระบายน้ำได้ดี มีความชื้นสูงแต่ไม่แฉะมากกว่าดินชนิดอื่น ๆ ใช้เวลาไม่นานรากใหม่ก็จะแตกออกมาเพื่อรอเลื้อยขึ้นไปพันซุ้มที่เตรียมไว้นั่นเอง รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง หมั่นตัดแต่งรากและต้นให้อยู่ในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ ที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้รากยาวลงไปโดนน้ำที่พื้นเพราะจะทำให้เน่าได้

การดูแลและบำรุง

          ม่านบาหลีเป็นพืชที่ดูแลง่ายมาก ๆ ด้วยความที่เป็นพืชเขตร้อนจึงชอบแสงแดดจัด ๆ โดยสามารถทนได้ทั้งแสงแดดปานกลางหรือแสงแดดเต็มวัน ส่วนน้ำก็รดแค่วันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ ทว่าอย่างที่บอกว่าม่านบาหลีเป็นพืชที่โตเร็วมาก ๆ ฉะนั้นต้องหมั่นตัดแต่งต้นและรากประมาณสัปดาห์ละครั้ง ก็จะทำให้ได้ม่านรากที่เป็นสีแดงหรือชมพูที่ดูสวยงาม ความยาวพอดีไม่มากจนเกินไป นอกจากยิ่งหมั่นตัดแต่งเถา ก็ทำให้แตกยอดใหม่เยอะขึ้นด้วย



ประโยชน์ม่านบาหลี

          ทุกวันนี้ผู้คนนิยมจัดสวนด้วยม่านบาหลี โดยจะใช้เป็นไม้ประดับตกแต่งสวน หรือปลูกบริเวณประตูและหน้าต่าง เพื่อเพิ่มความสวยงามและน่าสนใจ รวมถึงยังทำเป็นซุ้มม่านบาหลีให้ร่มเงาและความร่มรื่นได้ด้วย แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะใบอ่อนของม่านบาหลียังมีรสเปรี้ยว จึงสามารถทำไปทำแกงหรือประกอบอาหารต่าง ๆ ได้

          ถือได้ว่าม่านบาหลีเป็นพืชที่สวย โตไว และดูแลง่ายมาก ๆ  บอกเลยว่าถ้าใครอยากทำซุ้มไม้เลื้อย ห้ามพลาดปลูกม่านบาหลีเด็ดขาด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://home.kapook.com/view186719.html

Saturday, October 26, 2019


กู้ซื้อคอนโดมือสองอย่างไรให้ได้วงเงินสูง

เมื่อคิดจะกู้ซื้อคอนโดมือสอง ผู้กู้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การกู้ซื้อคอนโดมือสองมีความแตกต่างจากการกู้ซื้อคอนโดใหม่อยู่พอสมควร โดยเฉพาะวงเงินกู้คอนโดมือสองที่ธนาคารมักจะอนุมัติต่ำกว่าวงเงินกู้คอนโดใหม่ แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ขอเพียงผู้กู้ทำความเข้าใจเงื่อนไขและปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกับการขอกู้คอนโด แล้วจัดการตัวเองกับคอนโดที่จะซื้อให้เรียบร้อยก่อนยื่นกู้ โอกาสที่จะกู้คอนโดให้ได้วงเงินสูงเต็มเพดานก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม




เงื่อนไขการกู้ซื้อคอนโดมือสองที่ควรทราบข้อกำหนดทางกฎหมาย


เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ให้เข้มงวดขึ้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา จึงส่งผลวงเงินกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน ดังนี้

- กรณีที่อยู่อาศัยหลังแรก ธนาคารสามารถอนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุด 100%
- กรณีที่อยู่อาศัยหลังที่สอง และผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลังแรก 3 ปีขึ้นไป อนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุด 90%
- กรณีที่อยู่อาศัยหลังที่สอง และผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลังแรกยังไม่ถึง 3 ปี อนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุด 80%


โดยข้อกำหนดข้างต้นจะใช้เฉพาะที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนที่อยู่อาศัยราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุดเพียง 70-80% และข้อกำหนด LTV ยังบังคับใช้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทุกประเภท ซึ่งรวมถึงสินเชื่อคอนโดมือสองด้วย

และวงเงินกู้สูงสุดที่อนุมัติได้ คือ วงเงินสูงสุดของสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อตกแต่งบ้าน และสินเชื่ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมกัน แต่ไม่รวมสินเชื่อเพื่อจ่ายเบี้ยประกันชีวิตผู้กู้ (MRTA) และประกันวินาศภัย

ขั้นตอนการกู้คอนโดที่แตกต่างกัน

ขั้นตอนกู้ซื้อคอนโดมือสองนั้นแตกต่างจากคอนโดใหม่ โดยผู้กู้สามารถผ่อนดาวน์คอนโดใหม่ได้ในระหว่างการก่อสร้าง แต่คอนโดมือสองจะไม่มีการผ่อนดาวน์ และแม้ว่าจะเป็นคอนโดหลังแรกที่ได้รับวงเงินกู้สูงสุด 100% ตามหลักเกณฑ์ของ LTV แต่ธนาคารมักก็จะปล่อยวงเงินกู้คอนโดให้เพียง 80-90% เท่านั้น ผู้กู้จึงต้องจัดเตรียมเงินก้อนให้พร้อมก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งยังต้องมีขั้นตอนดำเนินการระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมากขึ้นอีกด้วย

สภาพคอนโด

สภาพในปัจจุบันของคอนโด คือปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ในการประเมินราคาและเคาะวงเงินกู้คอนโดนั้น ๆ โดยธนาคารจะพิจารณาทั้งสภาพภายในห้องและสภาพโดยรวมของอาคาร ยิ่งคอนโดมีสภาพทรุดโทรมเท่าไร ก็ยิ่งถูกหักค่าเสื่อมมากเท่านั้น ส่งผลให้วงเงินที่ผู้กู้จะได้รับนั้นยิ่งน้อยลง

ทำเลของคอนโด

ทำเลที่ตั้งของคอนโดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้กำหนดราคาประเมิน โดยคอนโดทำเลดีนั้นมีโอกาสซื้อขายได้ง่ายและมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต ธนาคารก็ย่อมมั่นใจมากกว่าคอนโดในทำเลห่างไกลความสะดวกสบายที่ขายยากและมูลค่าไม่กระเตื้องขึ้น ทำเลดีหรือไม่ดีจึงส่งผลกับวงเงินกู้ด้วยเหมือนกัน

การเงินของผู้กู้

ก่อนกู้ซื้อคอนโดมือสอง ผู้กู้ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมเช่นเดียวกับการกู้ซื้อคอนโดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเงินดาวน์ เงินออม การเดินบัญชี และการปลอดจากภาระหนี้สิน เพราะวงเงินกู้ย่อมสัมพันธ์กับศักยภาพในการผ่อนของผู้กู้ ยิ่งผู้กู้มีรายได้น้อย รายจ่ายเยอะ เงินเก็บไม่มี และมีความสามารถในการผ่อนต่อเดือนไม่มาก วงเงินกู้ก็ยิ่งน้อย หรืออาจกู้คอนโดมือสองไม่ได้เลย

วิธีการกู้ซื้อคอนโดมือสองให้ได้วงเงินสูงเลือกคอนโดสภาพดี

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้คอนโดที่สวยงามและมีสภาพดี เพราะนั่นหมายถึงการเข้าอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไรมาก และคอนโดที่มีสภาพดีย่อมได้รับการประเมินราคาสูงกว่าคอนโดที่เสื่อมโทรม ยิ่งถ้าเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในทำเลดี ราคาประเมินก็ยิ่งสูง แต่ราคาขายก็มักจะสูงตามไปด้วย ดังนั้นผู้กู้ต้องมีความใจเย็นในการเลือกซื้อคอนโดมือสอง แล้วเลือกซื้อคอนโดที่ดีในราคาถูกใจจริง ๆ เท่านั้น

มีการปรับปรุงก่อนซื้อขาย

หากผู้กู้ตัดสินใจซื้อคอนโดโทรม ๆ ที่ขายในราคาถูกจนปฏิเสธไม่ลง ก็ขอให้เจรจาต่อรองให้เจ้าของห้องทำการปรับปรุงห้องให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ก่อนธนาคารจะเข้าประเมินราคา เพราะการรีโนเวทคอนโดเก่าให้ดูน่าอยู่ก่อนการซื้อขายกันนั้น นอกจากจะช่วยลดภาระและเวลาในการตกแต่งก่อนเข้าอยู่อาศัยแล้ว ยังมีโอกาสได้รับวงเงินกู้ซื้อคอนโดมือสองสูงกว่าการยื่นกู้ตามสภาพเดิมอีกด้วย

เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย

การเตรียมตัวเองให้พร้อมกู้คอนโด คืออีกหนึ่งวิธีกู้ซื้อคอนโดมือสองให้ได้วงเงินสูง โดยเฉพาะการปิดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อก่อนหน้านี้ทั้งหมด เพราะหนี้สินเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารประเมินศักยภาพในการผ่อนต่ำกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ การเดินบัญชีให้สวย พร้อมเก็บออมเงินเป็นประจำทุกเดือนให้เสมือนกับการซ้อมผ่อนคอนโด ก็จะช่วยให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ซื้อคอนโดมือสองได้สูงและง่ายกว่าเดิม

เมื่อเข้าใจเทคนิคในการกู้ซื้อคอนโดมือสองแล้ว โอกาสที่จะกู้ซื้อคอนโดมือสองในวงเงินสูงก็ย่อมมีมากขึ้น และอาจได้รับวงเงินสูงไม่ต่างจากการกู้คอนโดใหม่เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ วงเงินกู้และโอกาสที่จะกู้ผ่านหรือไม่ผ่านนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร ผู้กู้จึงควรศึกษาขั้นตอนกู้ซื้อคอนโดและการขอเอกสารประกอบการพิจารณาของแต่ละธนาคารอย่างละเอียด รวมทั้งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กู้ไม่ผ่าน เพื่อเตรียมตัวให้ดีที่สุดก่อนยื่นกู้คอนโดจริง ๆ


ปัจจัยการให้วงเงินกู้ซื้อคอนโดมือสอง



สภาพคอนโด

สภาพในปัจจุบันของคอนโด คือปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ในการประเมินราคาและเคาะวงเงินกู้คอนโดนั้น ๆ โดยธนาคารจะพิจารณาทั้งสภาพภายในห้องและสภาพโดยรวมของอาคาร ยิ่งคอนโดมีสภาพทรุดโทรมเท่าไร ก็ยิ่งถูกหักค่าเสื่อมมากเท่านั้น ส่งผลให้วงเงินที่ผู้กู้จะได้รับนั้นยิ่งน้อยลง

ทำเลของคอนโด

ทำเลที่ตั้งของคอนโดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้กำหนดราคาประเมิน โดยคอนโดทำเลดีนั้นมีโอกาสซื้อขายได้ง่ายและมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต ธนาคารก็ย่อมมั่นใจมากกว่าคอนโดในทำเลห่างไกลความสะดวกสบายที่ขายยากและมูลค่าไม่กระเตื้องขึ้น ทำเลดีหรือไม่ดีจึงส่งผลกับวงเงินกู้ด้วยเหมือนกัน

การเงินของผู้กู้

ก่อนกู้ซื้อคอนโดมือสอง ผู้กู้ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมเช่นเดียวกับการกู้ซื้อคอนโดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเงินดาวน์ เงินออม การเดินบัญชี และการปลอดจากภาระหนี้สิน เพราะวงเงินกู้ย่อมสัมพันธ์กับศักยภาพในการผ่อนของผู้กู้ ยิ่งผู้กู้มีรายได้น้อย รายจ่ายเยอะ เงินเก็บไม่มี และมีความสามารถในการผ่อนต่อเดือนไม่มาก วงเงินกู้ก็ยิ่งน้อย หรืออาจกู้

คอนโดมือสองไม่ได้เลย

วิธีการกู้ซื้อคอนโดมือสองให้ได้วงเงินสูงเลือกคอนโดสภาพดี

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้คอนโดที่สวยงามและมีสภาพดี เพราะนั่นหมายถึงการเข้าอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไรมาก และคอนโดที่มีสภาพดีย่อมได้รับการประเมินราคาสูงกว่าคอนโดที่เสื่อมโทรม ยิ่งถ้าเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในทำเลดี ราคาประเมินก็ยิ่งสูง แต่ราคาขายก็มักจะสูงตามไปด้วย ดังนั้นผู้กู้ต้องมีความใจเย็นในการเลือกซื้อคอนโดมือสอง แล้วเลือกซื้อคอนโดที่ดีในราคาถูกใจจริง ๆ เท่านั้น

มีการปรับปรุงก่อนซื้อขาย

หากผู้กู้ตัดสินใจซื้อคอนโดโทรม ๆ ที่ขายในราคาถูกจนปฏิเสธไม่ลง ก็ขอให้เจรจาต่อรองให้เจ้าของห้องทำการปรับปรุงห้องให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ก่อนธนาคารจะเข้าประเมินราคา เพราะการรีโนเวทคอนโดเก่าให้ดูน่าอยู่ก่อนการซื้อขายกันนั้น นอกจากจะช่วยลดภาระและเวลาในการตกแต่งก่อนเข้าอยู่อาศัยแล้ว ยังมีโอกาสได้รับวงเงินกู้ซื้อคอนโดมือสองสูงกว่าการยื่นกู้ตามสภาพเดิมอีกด้วย

เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย

การเตรียมตัวเองให้พร้อมกู้คอนโด คืออีกหนึ่งวิธีกู้ซื้อคอนโดมือสองให้ได้วงเงินสูง โดยเฉพาะการปิดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อก่อนหน้านี้ทั้งหมด เพราะหนี้สินเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารประเมินศักยภาพในการผ่อนต่ำกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ การเดินบัญชีให้สวย พร้อมเก็บออมเงินเป็นประจำทุกเดือนให้เสมือนกับการซ้อมผ่อนคอนโด ก็จะช่วยให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ซื้อคอนโดมือสองได้สูงและง่ายกว่าเดิม

เมื่อเข้าใจเทคนิคในการกู้ซื้อคอนโดมือสองแล้ว โอกาสที่จะกู้ซื้อคอนโดมือสองในวงเงินสูงก็ย่อมมีมากขึ้น และอาจได้รับวงเงินสูงไม่ต่างจากการกู้คอนโดใหม่เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ วงเงินกู้และโอกาสที่จะกู้ผ่านหรือไม่ผ่านนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร ผู้กู้จึงควรศึกษาขั้นตอนกู้ซื้อคอนโดและการขอเอกสารประกอบการพิจารณาของแต่ละธนาคารอย่างละเอียด รวมทั้งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้กู้ไม่ผ่าน เพื่อเตรียมตัวให้ดีที่สุดก่อนยื่นกู้คอนโดจริง ๆ

Thursday, October 24, 2019



แบบกระท่อมน้อย สวยๆ สร้างไว้นอนที่สวน ที่ทุ่งนา

   แบบบ้านกระท่อม ทั้งแบบบ้านกระท่อมชั้นเดียวและแบบบ้านกระท่อมสองชั้น แบบบ้านกระท่อมน้อยกลางธรรมชาติสุดร่มรื่น ไม่ว่าอากาศร้อนแค่ไหนก็อยู่สบาย

         อีกหนึ่งความฝันของหลาย ๆ คนคือการได้ออกจากป่าคอนกรีต มีบ้านหลังเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ทุ่งนา ล้อมรอบด้วยสวนเล็ก ไม่ต้องหรูหรา แค่ได้ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ ได้รดน้ำต้นไม้ที่ปลูกไว้ ก็ถือเป็นความสุขแล้ว และสำหรับใครที่กำลังมองหาแบบบ้านกระท่อมที่ว่าอยู่ วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมแบบบ้านกระท่อมมาให้ชม แต่ละแบบน่าอยู่ทั้งนั้นเลยล่ะมาชมกันเลยว่ามีแบบไหนบ้าง

แบบกระท่อมน้อยที่ 1


 แบบกระท่อมน้อยที่ 2

 แบบกระท่อมน้อยที่ 3

 แบบกระท่อมน้อยที่ 4

 แบบกระท่อมน้อยที่ 5

 แบบกระท่อมน้อยที่ 6

 แบบกระท่อมน้อยที่ 7

 แบบกระท่อมน้อยที่ 8

 แบบกระท่อมน้อยที่ 9
แบบกระท่อมน้อยที่ 10





จุดเสี่ยงในบ้านที่งูมักจะเข้าไปซ่อน ระวังไว้ก่อนโดนเหล่าอสรพิษทำร้าย




 งู  ถือเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อันตรายถึงชีวิต คงไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับพวกมัน แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเหล่าอสรพิษเลื้อยเข้ามาอยู่ในบ้านของเราเอง เห็นได้จากข่าวคราวที่ขึ้นมาบนหน้าฟีดบ่อย ๆ ซึ่งสาเหตุที่งูชอบเข้ามาอยู่ในบ้านคนก็เพราะบ้านเป็นทั้งแหล่งอาหารชั้นดีและแหล่งกบดานที่ปลอดภัย สภาพแวดล้อมเหมาะจะเป็นที่ซ่อนตัวและวางไข่ แถมยังไม่ค่อยมีศัตรูมาก่อกวน โดยเฉพาะ 5 จุดในบ้านเหล่านี้ ที่เราอยากเตือนให้ระมัดระวังกันไว้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้

รอยแตกหรือรอยร้าวบนผนัง และร่องใต้ประตู


          รอยแตก รอยร้าว หรือร่องใต้ประตู ถือเป็นช่องว่างที่เปิดให้งูเข้ามาในบ้านของเราได้ง่ายที่สุด ฉะนั้นถ้าหากใครไม่อยากให้งูเข้ามาหาอาหารหรือวางไข่ในบ้านละก็ ให้รีบอุดรอยร้าวเหล่านั้นไว้เลย รวมถึงอย่าลืมมองหาที่กั้นประตูมาครอบปิดขอบด้านล่างเอาไว้ด้วย เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันงูแล้ว ยังช่วยป้องกันจิ้งจก แมลงสาบ และช่วยไม่ให้แอร์กระจายออกนอกบ้านอีกต่างหาก

บนเพดาน

          เหตุผลที่งูมักจะเลื้อยขึ้นไปอยู่บนฝ้า บนเพดาน หรือบนห้องใต้หลังคาก็เป็นเพราะว่าพวกมันตามกลิ่นหนู ซึ่งเป็นอาหารโปรดของมันนั่นเอง ดังนั้นถ้าหากไม่อยากให้งูเข้ามาอยู่ในบ้านละก็ อันดับแรกเลยก็คือหาทางไล่หนูเหล่านั้นออกไป เพื่อกำจัดแหล่งอาหารของงู ต่อมาทำการอุดช่องว่างช่องโหว่อย่าให้มีรูที่งูสามารถเลื้อยเข้าไปได้ เพราะถึงแม้จะไม่มีอาหารแต่ก็มีโอกาสที่งูอาจจะขึ้นไปทำรังเพื่อวางไข่ก็เป็นได้

ห้องน้ำ

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าห้องน้ำเป็นบริเวณที่เจองูบ่อยที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะตรงชักโครก อื้อหือ...ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ากำลังทำธุระส่วนตัว แล้วอยู่ดี ๆ งูโผล่ขึ้นมาจะทำยังไง เพราะฉะนั้นป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยคอยสังเกตระบบการไหลเวียนของน้ำว่าปกติไหม ระบายน้ำช้าหรือเปล่า ท่อมีกลิ่นไหม ที่สำคัญต้องหมั่นสำรวจ ตรวจเช็ก และระมัดระวังก่อนใช้ห้องน้ำทุกครั้ง รวมถึงถ้าในห้องน้ำมีถังเกรอะหรือถังบำบัดน้ำเสียก็ต้องคอยปิดฝาให้แน่นสนิทด้วย

กระถางต้นไม้


          บริเวณนี้คนรักการปลูกต้นไม้ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะกระถางต้นไม้ก็เป็นอีกจุดที่มักจะเจองูอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีทั้งดิน ทั้งพืช ซึ่งเป็นของโปรดของงู อีกทั้งความเย็นจากการรดน้ำก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของมันอีกต่างหาก เอาเป็นว่างานนี้ใครที่คิดจะปลูกต้นไม้ในบ้าน หรือย้ายต้นไม้เข้าบ้านก็ต้องระวังเอาไว้สักนิด หมั่นตรวจเช็กใต้ดิน ใต้กระถางให้ละเอียด เท่านี้ก็ช่วยได้แล้วค่ะ
ในสวน

          ไม่ว่าจะสวนหน้าบ้าน สวนข้างบ้าน หรือสวนหลังบ้าน ก็ถือเป็นแหล่งอาหารและแหล่งพักพิงชั้นดีของงู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนที่รก หญ้าสูง และไม่ได้ดูแล ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องคอยตัดหญ้า เก็บกวาด และจัดสวนให้สวยงามเป็นระเบียบอยู่เสมอ จะได้ช่วยป้องกันและทำให้มองเห็นงูได้ชัด ไม่เผลอเข้าใกล้จนเกิดอันตราย ส่วนวิธีป้องกันงูเลื้อยเข้ามาอยู่ในสวนก็ทำได้ง่าย ๆ โดยกับดักมาล่อ โรยทรายแมวให้ทั่ว หรือปลูกต้นไม้กันงู แต่ถ้าหากเจองูอยู่ในสวนแล้วละก็ ไม่ควรฆ่าเอง แต่รีบเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยจับออกไปดีกว่า

          หากจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก่อนเข้าหน้าฝนเต็มตัว สามารถป้องกัน งูเข้าบ้านได้ง่าย ๆ โดยกำจัด "หนู" ที่เป็นอาหารอันโอชะของงู และหมั่นเก็บกวาดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกบ้านให้เป็นระเบียบ เพื่อลดแหล่งที่อยู่ หรือเลี้ยงสัตว์ที่เป็นศัตรูกับงู เช่น สุนัขหรือแมว เอาไว้ที่บ้าน เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันงูเข้าบ้านได้แล้วค่ะ

Wednesday, October 23, 2019

มองหาสิ่งเหล่านี้ เพื่อกำจัดกลิ่นตู้เสื้อผ้า ที่มีอยู่ในบ้าน



มองหาสิ่งเหล่านี้ เพื่อกำจัดกลิ่นตู้เสื้อผ้า ที่มีอยู่ในบ้าน

วิธีกำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า ที่สามารถทำได้ด้วยสิ่งของใกล้ตัวที่มีอยู่ในบ้าน ใช้ดับกลิ่นตู้เสื้อผ้าใหม่ก็ได้ ใช้กำจัดกลิ่นอับตู้เสื้อผ้าเก่าก็ดี



          กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ปล่อยปละละเลยไม่ได้ แม้แต่กลิ่นของผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มยังต้องพ่ายแพ้ เพราะเสื้อผ้าจะมีกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้ามาติดแทน สุดท้ายก็ต้องซักใหม่อยู่ดี ทางที่ดีที่สุดคือต้องดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในตู้เสื้อผ้าซะ ซึ่งวิธีกำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าก็ง่ายดายมากด้วย สิ่งของที่อยู่ในบ้าน ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมมาฝากกันแล้ว

1. กากกาแฟ

          นอกจากจะช่วยขจัดกลิ่นแล้ว กากกาแฟยังให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย โดยการนำกากกาแฟใส่ถ้วยเล็ก ๆ นำไปวางในตู้เสื้อผ้า ปิดตู้เสื้อผ้าให้สนิท ทิ้งไว้ 1 คืน เมื่อถึงตอนเช้าให้เอาออกทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน

2. สบู่ก้อน

          สบู่ก้อนจะละลายเมื่อเจอกับอากาศร้อน ในตอนที่ละลายจะปล่อยกลิ่นหอมออกมาด้วย ให้ตัดสบู่เป็นชิ้นเล็ก ๆ เท่าลูกเต๋าใส่ถ้วย จากนั้นนำไปวางในตู้เสื้อผ้า ปิดตู้แล้วทิ้งไว้ประมาณ 4–5 ชั่วโมงให้สบู่ละลายแล้วค่อยนำออกจากตู้

3. น้ำส้มสายชู


          ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 นำใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดให้ทั่วตู้เสื้อผ้า เปิดตู้เสื้อผ้าไว้ ปล่อยให้แห้ง สำหรับคนที่ต้องการดับกลิ่นบนเสื้อผ้าด้วย สามารถฉีดใส่เสื้อผ้าโดยตรงได้เลย กลิ่นน้ำส้มสายชูจะไม่ติดเสื้อผ้า แล้วจะระเหยไปพร้อมกับกลิ่นอับ

4. ทรายแมว

          กลิ่นฉี่แมวที่ว่าฉุนและติดนานทรายแมวยังเอาอยู่ แค่กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าทรายแมวขจัดได้สบาย ๆ วิธีใช้ให้นำทรายแมวใส่ถ้วยหรือกล่องพลาสติก นำไปวางในตู้เสื้อผ้า แล้วทรายแมวก็จะดูดกลิ่นอับออกไป

5. วอดก้า


          ผสมวอดก้ากับน้ำสะอาดในสัดส่วนที่เท่ากัน บรรจุใส่ขวดสเปรย์ นำเสื้อผ้าออกจากตู้เสื้อผ้าให้หมด จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ฉีดให้ทั่วตู้ เปิดตู้ให้อากาศไหลเวียนได้ทั่วถึง ทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยนำเสื้อผ้ากลับไปจัดไว้ที่เดิม

6. เบกกิ้งโซดา



          นำเบกกิ้งโซดาใส่กล่องพลาสติกโดยที่ไม่ต้องปิดฝา เพราะเบกกิ้งโซดาจะทำงานได้ดีในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก จากนั้นนำไปวางบนช่องใส่ของด้านบนตู้เสื้อผ้าหรือจุดที่เก็บเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย เพื่อหลีกเลี่ยงการหกเลอะเทอะ

7. ถ่าน

          ถ่านมีคุณสมบัติในการดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งนอกจากจะช่วยดับกลิ่นในตู้เย็นแล้ว ยังสามารถนำมาใช้กำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้ด้วย และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ถ่านเปื้อนเสื้อผ้า ให้นำถ่านใส่ถุงผ้าบาง ๆ ก่อนนำไปวางหรือแขวน

8. น้ำมะนาว


          ใช้ผ้าชุบน้ำมะนาวผสมกับน้ำอุ่น จากนั้นนำไปเช็ดทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า ปล่อยให้แห้งสนิทแล้วนำเสื้อผ้าเข้าตู้ได้ อีกวิธีหนึ่งคือให้ใช้ก้อนสำลีชุบน้ำมะนาว จากนั้นวางใส่ถาดเล็ก ๆ แล้วนำไปวางในตู้เสื้อผ้า

          ถึงแม้กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าจะเป็นอีกปัญหาใหญ่ของพ่อบ้านแม่บ้าน แต่จะเห็นได้ว่าการกำจัดกลิ่นตู้เสื้อผ้าใหม่ กลิ่นเหม็น กลิ่นอับ ก็ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่มองหาสิ่งของ จากในบ้าน แล้วทำตามขั้นตอน ก็สามารถกำจัดกลิ่นตู้เสื้อผ้าได้แล้วค่ะ

Tuesday, October 22, 2019

การจัดสวนมินิ เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้บ้าน



การจัดสวนมินิ เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้บ้าน

สวนขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ที่มีสัดส่วนพื้นที่ค่อนข้างจำกัดและพักอาศัยอยู่ในเมือง วันนี้เราจึงมีไอเดียช่วยเปลี่ยนมุมบ้านที่เคยชินตาทุกวันให้เปี่ยมไปด้วยสีเขียว

สำหรับใครที่มีบ้านขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัดก็ไม่ต้องกังวลไป เราสามารถดึงธรรมชาติเข้ามาสร้างความสดชื่นให้บ้านได้ในทุกๆวันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนแขวน การจัดสวนกระถาง หรือการจัดสวนประดิษฐ์ ล้วนแต่เพิ่มสีเขียวให้บ้านได้ทั้งนั้น สำหรับใครยังคิดไม่ออกว่าจะจัดสวนแบบไหนดีให้เข้ากับบ้านของตัวเอง วันนี้เรามีไอเดียมาบอก




สวนแขวน อีกหนึ่งทางเลือกของคนพื้นที่จำกัดนั่นก็คือ การจัดสวนแขวน โดยเลือกมุมใดมุมหนึ่งของภายในบ้านที่มีพื้นที่ว่างอยู่สำหรับจัดสวน เลือกพรรณไม้ที่ดูแลง่ายและเจริญเติบโตได้ดีในร่มรวมไปถึงพื้นที่ที่มีแสงแดดน้อย อาทิเช่น เฟิน หรือ พลูด่าง เป็นต้น ไอเดียนี้เลือกตะแกรงเหล็กฉีกมาเป็นที่แขวนทำให้แขวนไม้กระถางได้หลากหลาย กลายเป็นมุมลอฟท์เท่ๆ ส่วนเรื่องการดูแลนอกจากจะหมั่นฉีดสเปรย์บ่อยๆแล้ว การใช้กาบมะพร้าวมาผสมกับดินในการปลูกก็ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับต้นไม้ได้อีกด้วย




จัดสวนกระถางในบ้าน สร้างบรรยากาศรื่นรมย์เสมือนนั่งอยู่ท่ามกลางสวนแม้จะอยู่ในบ้าน ด้วยการจัดสวนกระถางโดยการนำมาวางรวมกันเป็นกลุ่ม ก่อนอื่นควรเลือกดีไซน์ของกระถางให้ดูน่าสนใจและไม่ใหญ่เกินไปเพื่อให้เหมาะกับภายในบ้าน ฉะนั้นเราควรคิดให้ดีว่าจะวางในมุมไหน อย่างเช่นไอเดียนี้ เลือกจัดสวนในบ้านให้ห้องนั่งเล่นโดยเรียงรายต้นไม้กระถางไว้รอบๆชิงช้า พรรณไม้ที่เลือกควรมีความทนทาน ดูแลง่าย และมีพุ่มทรงสวยและสามารถตัดแต่งขนาดได้ง่าย เพื่อไม่ให้ดูรกตาจนเกินไป อยู่ในบ้านแบบนี้ควรหาที่วางมารองกระถางด้วยนะคะ เพื่อป้องกันน้ำและดินเลอะเทอะภายในบ้าน




สวนประดิษฐ์ เติมสีเขียวโดยการเลือกจัดสวนจิ๋วเหมาะกับพื้นที่จำกัด เพียงแค่มุมเล็กๆ อย่างบนโต๊ะก็เพิ่มชีวิตชีวาต่อผู้พักอาศัยได้ โดยวิธีนี้เป็นการจัดสวนประดิษฐ์ค่ะ จะว่าไปแล้วการจัดสวนประดิษฐ์ก็คือ การทำด้วยงานฝีมือ และมีต้นไม้เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนขวดแก้ว สวนจิ๋วขนาดเล็กในกระถาง ลองทำตามกันดูถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

Monday, October 21, 2019



การจัดหิ้งพระ ในบ้านอย่างไร ให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของบ้าน




บ้านแต่ละหลังย่อมมีหิ้งพระ หรือมากกว่านั้นอาจจะมีหิ้งเทพ หิ้งรูปบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่ก็ยังพบปัญหาว่าหลายคนไม่ทราบว่าควรจัดวาง ตั้งหิ้งพระไว้บริเวณใดของบ้านถึงเหมาะสมและเป็นมงคลกับชีวิต รวมถึงอาจเผลอวางหิ้งพระผิดที่ผิดทางจนเกิดความไม่เป็นมงคลได้ เราเลยรวบรวมคำแนะนำเรื่องการจัดหิ้งพระให้เหมาะสมและเป็นมงคลต่อเจ้าของบ้าน

การจัดหิ้งพระในบ้านอย่างไร ให้เป็นสิริมงคลกับเจ้าของบ้าน


1. หมั่นดูแลหิ้งพระให้สะอาดอยู่เสมอ
หลายจุดในบ้านเจ้าของบ้านให้ความสำคัญแต่บางครั้งหลงลืมตำแหน่งของหิ้งพระ ดังนั้นต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดองค์พระหรือรูปเทพ เพราะหากองค์พระหรือรูปเทพมีฝุ่นจับเชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย นอกจากนั้นควรหมั่นเปลี่ยนน้ำ ดอกไม้ในแจกันบูชาเพื่อให้ชีวิตของคนในบ้านสดชื่น แจ่มใสอยู่ตลอดเวลา

2. เลือกตำแหน่งที่สงบ
หิ้งพระควรตั้งอยู่ในพื้นที่ๆ สงบ ไร้เสียงรบกวน จอแจ เช่นบางบ้านประดับหิ้งพระไว้บริเวณประตูเข้า-ออก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าคนในบ้านจะพบแต่ความวุ่นวาย

3. หิ้งพระไม่ควรติดตั้งผนังเดียวกับห้องน้ำหรือห้องครัว รวมถึงไม่ควรหันหน้าหิ้งบูชาไปตรงกับประตูห้องน้ำหรือห้องครัว เพราะจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย มีเรื่องขัดแย้งหรือเงินทองรั่วไหล

4. หิ้งพระบนหลังตู้ควรสูงกว่าศีรษะ
หากคุณพักอาศัยในคอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์หิ้งพระควรอยู่สูงกว่าศีรษะเพราะมันเกี่ยวพันกับความเจริญก้าวหน้า อาชีพการงาน

5. ห้องพระคือห้องพระ ห้องพระก็คือห้องสำหรับตั้งบูชาพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว เราอย่าใช้ห้องพระไว้เก็บข้าวของชนิดอื่นๆ รวมทั้งห้องพระไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำหรือมีประตูตรงกับห้องน้ำ

6. หิ้งพระไม่ควรตั้งอยู่ปลายเตียง หากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรตั้งหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน เนื่องจากเราอาจมีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าหิ้งพระเช่นการเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือการร่วมหลับนอนของคู่สามี-ภรรยา อีกทั้งยังไม่ควรหันหน้าหิ้งพระไปยังทิศที่เตียงตั้งอยู่ด้วย

7. ห้องรับแขกไม่ใช่ที่ตั้งของหิ้งบูชา อย่างที่บอกว่าหิ้งพระควรตั้งอยู่ในห้องที่ค่อนข้างมีบรรยากาศสงบ

8. บนหิ้งพระควรมีองค์พระหรือองค์เทพเป็นจำนวนเลขคี่

9. หลีกเลี่ยงการตั้งหิ้งบูชาไว้ใต้คาน เพราะหมายถึงดวงชะตาของเจ้าของบ้านอาจถูกกดทับ และมักมีเรื่องให้ปวดหัวอยู่เสมอ

10. หิ้งพระควรตั้งอยู่ในมุมที่เป็นสัดส่วน ไม่ใช่เมื่ออยู่นอกบ้านแล้วสามารถมองเห็นหิ้งพระในบ้านอย่างชัดเจน เช่นนั้นถือว่าไม่ดี

นอกจากนี้ยังมีทิศต้องห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านตั้งหิ้งพระอีกด้วย มาดูกันว่าคุณเกิดปีไหนและห้ามไม่ให้ตั้งหิ้งพระตรงไหน

เจ้าของบ้านเกิดปีไหนและห้ามไม่ให้ตั้งหิ้งพระตรงไหน




1. เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดอันตราย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต

2. เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน

3. เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้ผู้หญิงและสมาชิกในครอบครัวเกิดอันตราย

4. เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียคนในบ้านจะเสียชีวิต

5. เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหายทั้งชายและหญิง

6. เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัวมีความยุ่งยากที่สุดจนหาความสงบสุขไม่ได้

7. เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน

8. เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

9. เจ้าของบ้านเกิดปีวอก ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว

10. เจ้าของบ้านเกิดปีระกา ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะทำให้ความทุกข์โศกมาเยือนครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ

11. เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะจะส่งผลร้ายให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้

12. เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

ได้หลักการจัดหิ้งพระแบบง่ายๆ กันไปแล้ว ก็ลองตรวจเช็คดูนะคะว่าเราวางถูกต้องแล้วหรือยัง

Sunday, October 20, 2019

การบูชาปี่เซียะในบ้าน เพื่อเรียกทรัพย์ให้มั่งมี ร่ำรวยเงินทอง ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย



การบูชาปี่เซียะในบ้าน เพื่อเรียกทรัพย์ให้มั่งมี ร่ำรวยเงินทอง ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

 มาทำความรู้จัก ปี่เซียะ วัตถุมงคลบูชาในบ้าน ทั้งการจัดวางปี่เซียะให้ถูกต้อง วิธีบูชาปี่เซียะให้ถูกต้อง ทำอย่างไร มาดูวิธีบูชาปี่เซียะในบ้านไปพร้อม ๆ กันค่ะ




หากกำลังมองหาวัตถุมงคลมาบูชากันอยู่ละก็ กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “ปี่เซียะ” วัตถุมงคลยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เทพแห่งโชคลาภ” ซึ่งมีประวัติและตำนานที่อยู่คู่กับราชวงศ์จีนมาอย่างยาวนาน ทั้งช่วยดึงดูดทรัพย์และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป ถ้าอยากรู้ว่าปี่เซียะคืออะไร มีความสำคัญกับบ้านของผู้ที่นำมาบูชาอย่างไร วิธีการวางและการบูชาปี่เซียะให้ถูกต้องทำอย่างไร ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ปี่เซียะ คือ

          ปี่เซียะ เป็นวัตถุมงคลยอดนิยม ที่มีการนำมาบูชา เพื่อให้ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย เรียกทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา และกักเก็บทรัพย์นั้นไม่ให้รั่วไหลออกไปไหนได้ ชาวจีนโบราณเชื่อกันว่า ปี่เซียะเป็นสัตว์ประหลาดที่รวมลักษณะของสัตว์มงคลทั้ง 5 ชนิดไว้ด้วยกัน ได้แก่ มังกร พญาราชสีห์หรือสิงโต อินทรี กวาง และแมว

          โดยตามตำนานเล่าว่า ปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 (เทพแห่งโชคลาภ) ของพญามังกรสวรรค์ มีชื่อเรียกด้วยกันหลายชื่อไม่ว่าจะเป็น “เทียนลก (กวางสวรรค์)” เป็นชื่อเดิม ส่วนจีนกวางตุ้งจะเรียกว่า “เผ่เย้า” และคนจีนแต้จิ๋วจะเรียกว่า “ผีซิว”

ลักษณะปี่เซียะดี

          1. อ้าปากรับทรัพย์
          2. หางยาวกวักโชคลาภ
          3. ยกหัวข่มให้คู่แข่งเกรงขาม
          4. ฝ่าเท้าตะปบเงิน
          5. ก้าวขา
          6. ลิ้นยาวตวัดเงินทอง
          7. อกใหญ่ผายผึ่ง ดูองอาจและน่าเกรงขาม
          8. ไม่มีรูทวาร เพื่อกักเก็บทรัพย์สินไม่ให้รั่วไหล

วิธีวางปี่เซียะให้ถูกต้อง

          เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งของมงคล ที่ช่วยเสริมฮวงจุ้ยในบ้านให้สมบูรณ์แบบและเฮง ๆ มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งของปี่เซียะจึงเป็นเรื่องสำคัญ ควรวางปี่เซียะไว้ให้เห็นเด่นชัด ไม่ตั้งอยู่ในที่อับหรือที่ต่ำ อย่างห้องเก็บของ ห้องน้ำ และไม่วางไว้ใกล้วัตถุมงคลชนิดอื่น ๆ เป็นต้น ทิศที่เหมาะสมที่จะวางปี่เซียะก็คือ ทิศตะวันออก หากจะนำมาวางไว้ในบ้านควรจะวางปี่เซียะให้เป็นคู่ตัวผู้-ตัวเมีย โดยหันหน้าออกไปทางประตูหน้าบ้านหรือหน้าร้าน วางให้ก้นชนกัน ซึ่งปี่เซียะตัวเมียจะก้าวเท้าขวาก็ให้วางทางด้านขวา และปี่เซียตัวผู้จะก้าวเท้าซ้ายก็ให้วางทางด้านซ้าย
          แต่ถ้าอยากเสริมในเรื่องของการป้องกันและปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและเรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมาแบบไม่มีรั่วไหล แนะนำให้วางไว้บนโต๊ะทำงาน โต๊ะเก็บเงิน ตู้เซฟ ห้องรับแขก หรือตำแหน่งสำคัญ ๆ ในบ้าน ถ้าอยากให้ปี่เซียะช่วยปกป้องคุ้มครองเวลาเดินทางออกไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ควรจะวางปี่เซียะให้หันหน้าออกไปทางประตูหลักของบ้านหรือวางไว้ในรถ ก็จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและอันตรายต่าง ๆ ได้

          หากนำปี่เซียะไปวางบนโต๊ะทำงานในบ้าน ควรวางให้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก็จะช่วยเพิ่มพูนอำนาจบารมี การบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ก็เป็นไปอย่างราบรื่น ง่ายดาย และลงตัว นอกจากนี้ยังนำพาโชคลาภมาให้และยังช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้อีกด้วย
วิธีบูชาปี่เซียะ

          ก่อนจะนำปี่เซียะเข้าบ้าน ให้จุดธูปเทียนบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน อย่าง พระ เทพเจ้า และเจ้าที่ให้เรียบร้อยซะก่อน โดยกล่าวว่า จะขอนำปี่เซียะเข้ามาในบ้านเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป นำโชคลาภและเงินทองให้เข้ามาให้กับเรา จากนั้นก็ทำการเปิดตาปี่เซียะ ด้วยการนำไปแช่ในน้ำเย็นและน้ำร้อนในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อปรับให้หยิน-หยางอยู่ในภาวะสมดุล แช่ไว้ 2 วัน ที่สำคัญระหว่างนี้จะต้องหมั่นมองหน้าปี่เซียะเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดงตนว่าเราเป็นเจ้าของ เมื่อครบกำหนดแล้วให้นำขึ้นจากน้ำแล้วใช้ผ้าขนหนูสีขาว ผืนสะอาด ๆ หรือผืนใหม่มาซับน้ำ พร้อมกับบอกกล่าวในทำนองที่ว่า เราเป็นเจ้าของแล้ว ช่วยเรียกทรัพย์สินเงินทองให้เราด้วย และอย่าลืมลูบหัว ลูบหลังบ่อย ๆ เพื่อให้ช่วยในเรื่องของสติปัญญาและกวักทรัพย์ให้เข้ามาหาให้มากขึ้น

          ขั้นตอนการบูชาปี่เซียะก็ไม่ยากเพียงแค่จัดหาภาชนะใส่น้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ และหมั่นเปลี่ยนน้ำทุกวัน นอกจากนี้ควรถวายของบูชา อย่าง ขนมจันอับ หรือโหงวเส็กทึ้ง, แต้เหลี้ยว (ขนม 5 สี แทนเบญจธาตุ) และผลไม้มงคล อย่างเช่น ส้ม กล้วย ลูกท้อ ทับทิม องุ่น และสับปะรด

          และก่อนจะท่องคาถาบูชาปี่เซียะที่หมายถึงคุณลักษณะเศรษฐีนั้น ให้ท่องนะโม 3 จบ แล้วค่อยสวดคาถาที่ว่า “อุ อา กะ สะ หรือ อุ อา กะ สะ ปี่เซียะ อานุภาโว เมตตาจิต ประสิทธิเม” ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการบูชาปี่เซียะ
          สำหรับการบูชาปี่เซียะแบบพกพา สามารถทำได้ 2 วิธีคือ วางไว้ในรถ 1 ตัว สำหรับคนที่เดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ หรือจะห้อยไว้ที่คอ โดยมีข้อแม้ว่าสร้อยปี่เซียะต้องเป็นสร้อยคนละเส้นกับสร้อยพระและห้อยให้อยู่ต่ำกว่าสร้อยพระ ที่สำคัญปี่เซียะต้องสัมผัสกับร่างกายของเจ้าของอยู่ตลอดเวลา

          วิธีขอพรปี่เซียะให้สิ่งที่กำลังจะทำหรือทำอยู่ประสบความสำเร็จ ให้ยกมือไหว้และอธิษฐานขอพร ตามด้วยประโยคที่ว่า “ลูกขออัญเชิญปี่เซียะมาช่วย ลูกจะไป…(สิ่งที่จะไปทำ)…”

ข้อควรระวังในการบูชา

          1. ห้ามลูบปากปี่เซียะ เพราะจะทำให้ทรัพย์รั่วไหล
          2. ห้ามยกปี่เซียะให้ผู้อื่นไปบูชา หากเราบูชาแล้ว เพราะเป็นวัตถุมงคลเฉพาะบุคคล
          3. ห้ามให้ผู้อื่นมาลูบปี่เซียะของเราเด็ดขาด
          4. ห้ามพกปี่เซียะไปงานอวมงคล




Saturday, October 19, 2019

วอลเปเปอร์ แต่งบ้านยอดนิยม

 


วอลเปเปอร์ แต่งบ้านยอดนิยม

เมื่อเลือกวอลเปเปอร์สำหรับตกแต่งผนัง มักจะเลือกสีและลาย ตามความชอบ ตามทัศนะคติของตัวเอง หลายคนชอบไม่เหมือนกัน บ้างก็อาจชอบลายดอกไม้ ใบไม้ บ้างก็ชอบแบบหรูหรา เช่นสไตล์คลาสสิค หรือสไตล์ทันสมัย โมเดิร์น บ้างก็ชอบแนวสดใส ร่าเริง หรือบางคนเน้นเรื่องของโทนสี หรือแบบผสม ร่วมสมัย หรือบางคนอาจติดใจกับลายที่เคยพบเห็น อาจเป็นโรงแรม ที่พัก หรือสถานที่รับรองต่างๆ เกิดความชอบและประทับใจ เป็นการจดจำภาพ เมือมีโอกาสเลือกก็เลยเลือกในแบบหรือสไตล์ที่ตัวเองได้สัมผ้สมา



มีสิ่งหนึ่งที่เหล่าศิลปินและดีไซน์เนอร์ พยามคิดและแบ่งแยกแนวในการตกแต่ง เพื่อเอาใจและนำเสนอทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการเลือกวอลเปเปอร์ในการตกแต่ง เพื่อให้หลากหลายยิ่งขึ้น ง่ายต่อการตกแต่ง ไม่ว่าจะเรื่องของลายและสีที่ใช้ เหล่านักออกกแบบ จึงได้แบ่งแนว หรือสไตล์ โดยแบ่งหมวดหมู่ ประเภท สไตล์ เพิ่อความสะดวก ชัดเจน เพื่อความสะดวกและง่ายวอลเปปอร์ติดผนังที่แบ่งแยกเป็นสไตล์การตกแต่งทั่วไป ในปัจจุบันที่ชัดเจนก็จะมีประมาณ 7-8 สไตล์ คือ คลาสสิก,วินเทจ,โมเดิร์น,เนเจอรัล,โอรัลทรัล,เทมโพรารี,เรทรอ,ลายสำหรับเด็กๆ และ ลายไทย จุดเด่น ความแตกต่างโดยแยกไว้เป็นสไตล์ดังนี้



โมเดิร์น Modern Wallpaper


วอลเปเปอร์ติดผนัง สไตล์โมเดิร์น เป็นวอลล์เปเปอร์แนวทันสมัย แฟชั่น ตามสมัยนิยม เน้นเรื่องของสีและลาย อิสระ เสรี ไร้ขีดจำกัด ไม่จำเจ โทนสีที่สดใส สดชื่น ร่าเริง มีชีวิตชีวา โดดเด่นทั้งสีพื้น ลายดอก หรือลายอื่นๆ ในแนวกราฟฟิก ทำให้ห้องดูทันสมัย เสริมสร้างบรรยากาศ สร้างความแตกต่างอย่างน่าชื่นชม และหลงใหล มีโทนสีให้เลือกทุกโทนสี สามารถจัดโทนสีเข้าได้กับการตกแต่งทุกสไตล์

วินเทจ Vintage Wallpaper

วอลเปเปอร์ติดผนังวินเทจ ลายดอกไม้ ยังคงเป็นที่ชื่นชอบในการตกแต่งสำหรับใครอีกหลายคน ตราบใดที่ ความสดชื่น สดใส ของดอกไม้ ยังเคียงอยู่คู่โลก วอลเปเปอร์ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ-ดอกไม้ จะเติมความรู้สึก เพิ่มบรรยากาศ ธรรมชาติ และประสบการณ์ที่โรแมนติก สำหรับความสุขที่ไม่ใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อย ด้วยใครเห็นแล้วต้องชอบ วอลเปเปอร์ติดผนังลายวินเทจ เป็นแนว หวาน สดชื่น สดใส น่ารัก มีความสุข เป็นลายที่เน้น ดอกไม้ ใบไม้ ลายเถาวัลย์ รวมถึง ลายที่เป็นผลไม้ เช่น องุ่น ส้ม แอปเปิ้ล หรือผลไม้อื่นๆ รวมไปถึงลาย แมกไม้ ภูเขา ที่สดใส ร่าเรอง จริงใจ นุ่มนวลและอ่อนหวาน

เนเชอรัล Natural  Wallpaper

วอลเปเปอร์ติดผนัง เนเชอรัล เป็นวอลเปเปอร์สไตล์ ธรรมชาติ เช่น เป็นลายไม้ต่างๆ เนื้อไม้ ลายเส้น ไม้ไผ่สาน ไม้ปาเก้ หรือแม้ลายที่ทำกราฟฟิก ให้ออกแนวศิลปะ ให้ไกล้เคียงกับวัสดุที่จากธรรมชาติ นอกจากลายไม้ แล้วยังมีลายที่เป็นหินธรรมชาติ หรือหินตัด ที่ดีไซน์ได้อย่างสวยงามลงตัว ประหนึ่งเป็นหินจริงเมื่อมองผิวเผินอาจแยกไม่ออก และยังมีลายที่เป็น เม็ดหิน ก้อนกรวด เม็ดทราย รวมทั้งลายอิฐก่อ อิฐประสาน และลายกระเบื้องโมเสท ลวดลายต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกสเมือนจริงจนแทบแยกไม่ออก วอลเปเปอร์ติดผนังลายไม้ปาเก้ วอลเปเปอร์ติดผนังลายอิฐแดง

คอนเทมโพรารี่ contemporary

ความทันสมัยแบบผสมผสาน ความลงตัวของการตกแต่งของหนุ่มสาว วอลเปเปอร์ติดผนัง คอนเทมโพรารี เป็นการตกแต่งแนวร่วมสมัย ผสมระหว่าง ใหม่และเก่า ทั้งโมเดิร์นและแฟชั่นหรือคลาสสิก เน้นเรื่องของสีที่สด ใหม่ ลวดลายที่ชัดเจน แนวศิลปะสมัยใหม่ กล้าใช้สี เป็นตัวตน สนุกสนาน สำหรับคนรุ่นใหม่ เร้าใจ ไม่จำเจ ผสมผสาน ความเป็นศิลปะ เข้าได้กับทุกสไตล์ ตามจินตนาการ ไร้ขีดจำกัด เต็มที่กับทุกอารมย์ สร้างสรรค์อย่างมีชีวิตชีวา ท้าทาย และวัดใจ บ่งบอกบุคคลิก สร้างความเป็นตัวตน ทันสมัยตามเวลา อย่างแท้จริง

โอเรลทัล Oriental Wallpaper

ศิลปะความงาม แนวตะวันออก วอลเปเปอร์ติดผนัง สไตล์ โอเรลทรัล เป็นวอลเปเปอร์สีสัน ลายเส้น แนวตะออกหรือทางเอเชีย มาจากแนวคิด ปรัชญา ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น ไทย หรืออีกหลายประเทศที่เป็นเอเชีย เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ซื่งเป็นแนวที่สะท้อนกลิ่นอาย ความเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงาม ความอ่อนช้อย เส้นสาย ลวดลายที่สงบ อบอุ่น ตามแนวคิด ในหลักปรัชญาและศาสนา ด้วยลายต่าง จากที่มาของธรรมชาติ ลายไม้ ลายไผ่ ลายจีน ตัวอักษร เป็นศิลปะท้องถิ่น เป็นเอกลักษณ์ของชาวเอเชีย ที่แตกต่างจากทางยุโรป เป็นอีกแนวที่ได้รับความนิยม อีกหนึ่ง style ของแนวการตกแตง เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ต้องการ เน้นและเจาะจง วอลเปเปอร์สไตล์นี้