สไตล์ตกแต่งบ้านยอดนิยม 7 แบบ
การตกแต่งบ้าน คือความสุขอย่างหนึ่งของคนทำบ้าน ได้หยิบเอาอันนู้นมาจับคู่กับอันนี้ ตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ มองไปทางไหนก็มีแต่ความสุข แต่ในบางครั้งการตกแต่งบ้านก็สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของบ้านอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าจะตกแต่งบ้านแบบไหนดี เริ่มต้นไม่ถูกว่าจะตกแต่งบ้านอย่างไรให้ออกมาสวย จะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านอย่างไรให้มันดูเข้ากัน เรื่องปวดหัวเหล่านี้จะหายไปถ้าคุณตกแต่งบ้านโดยมีสไตล์
ตกแต่งบ้านเป็นตัวควบคุม
สไตล์ตกแต่งบ้านทั้ง 7
เมื่อกำหนดสไตล์ตกแต่งบ้านได้แล้ว งานที่เหลือก็จะง่ายยิ่งขึ้น ในบทความนี้บุญถาวรจะพาไปรู้จักกับสไตล์ในการแต่งบ้าน 7 นั่นคือ
1.Modern style
2.Minimalist style
3.Loft style
4.Classic style
5.Vintage style
6.Contemporary stlye
7.Luxury style
ทั้ง 7 สไตล์ตกแต่งบ้านนี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก และเป็นสไตล์สากลที่ถูกหยิบมาใช้กันบ่อยๆ จริงๆแล้วสไตล์ตกแต่งบ้านจะมีมากกว่านี้ แต่ทั้ง 7 สไตล์นี้จะมีความเป็นสากลมากที่สุด แต่ละสไตล์ตกแต่งบ้านล้วนแล้วแต่มีทั้งความสวยงามและเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง (แต่ถ้าคนไม่ชอบก็จะบอกว่าไม่สวย) นอกจากจะช่วยให้การตกแต่งบ้านมีธีมที่คุมทุกอย่างให้เข้ากันได้แล้ว สไตล์ตกแต่งบ้านที่ดียังช่วยแขกที่มาเยี่ยมบ้านเกิดความรู้สึกประทับใจในรสนิยมของเจ้าบ้านได้มากขึ้นอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปรู้จักสไตล์การแต่งบ้านทั้ง 7 สไตล์กันเลย
1.ตกแต่งบ้านแบบ Modern Style
เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่ง่ายที่สุด หาแบบดูได้ง่ายที่สุด และที่สำคัญคือหาซื้อเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านได้ง่ายเพราะมีให้เลือกซื้ออย่างหลากหลายทั้งดีไซน์และราคา การตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นเน้นความเรียบง่ายผสมกับเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นต้องมีลวดลายมากนัก เน้นการใช้สีโทนเรียบ ไม่ดูฉูดฉาดจนเกินไป
นอกจากความเรียบง่ายแล้วการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ยังต้องแฝงความทันสมัยเอาไว้ด้วย สีของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นควรเป็นสีที่เข้ากัน ไม่ตัดกันจนดูไม่สวยงาม สีที่นิยมคือ ขาว เทา ดำ ครีม และสีโทนเข้ม ซึ่งสีเหล่านี้จะสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่นๆ มาวางประกอบได้ง่าย ทำให้สไตล์การตกแต่งแบบนี้มีต้นทุนไม่บานปลาย สวยงาม ทำง่าย และได้รับความนิยม
2.ตกแต่งบ้านแบบ Minimalist Style
มินิมอลกลายเป็นสไตล์การแต่งบ้านยอดนิยมในยุคปัจจุบันที่เน้นให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายเป็นหลัก ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีสีสรรฉูดฉาดมาก มีจำนวนเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งไม่จำเป็นต้องเยอะ เอาแค่ที่พอดี อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่เข้าไปในห้อง นอกจากนี้ยังเน้นความสว่างจากแสงไฟธรรมชาติเป็นหลัก หรือใช้หลอดไฟที่มีสีสรรไม่ฉูดฉาด เน้นความเรียบง่ายในทุกองค์ประกอบ เก็บกวาดดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย
สไตล์การตกแต่งบ้านแบบ Minimalist ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไม่เฉพาะแค่การตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ยังไปในวงการโรงแรม โฮสเทล ร้านกาแฟ และร้านคาเฟ่ต่างๆ ก็นิยมตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่ายแบบนี้มากยิ่งขึ้น ด้วยความที่แก่นหลักคือความเรียบง่ายทำให้การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ต้องวิเคราะห์จากสถานที่ด้วยว่าควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบไหน
3.ตกแต่งบ้านแบบ Loft Style
Loft style เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่ฮิตมากในช่วงทศวรรตที่ผ่านมาถูกนำไปตกแต่งทั้งบ้าน ร้านอาหาร และคาเฟ่ บางคนอาจจะเรียกสไตล์การแต่งบ้านแบบนี้ว่าเป็นการแต่งบ้านแบบดิบๆ เพราะไอเดียหลักของการแต่งบ้านแบบนี้มาจากการเน้นโชว์ตัวโครงสร้างหลักของบ้าน เช่น โครงเหล็ก ไม้ เสาปูน อิฐ ทำให้ดูมีความดิบแต่สวยงาม
บางครั้งเหมือนเข้าไปนั่งทำงานในโรงรถหรือโกดังเลยด้วยซ้ำ แต่ความดิบก็แฝงไปด้วยความเรียบง่ายและสวยงามในตัวของมันเอง ดูมีความศิลป์ไปอีกแบบ จึงทำให้สไตล์การตกแต่งบ้านแบบนี้แพร่กระจายจากโลกตะวันตกมายังประเทศไทยอย่างรวดเร็ว นอกจากการเน้นใช้โครงสร้างดิบ เช่น เหล็ก ไม้ ปูน อิฐ แล้วยังสามารถใช้อุปกรณ์อื่นๆ ทดแทนได้เหมือนกัน เช่น วอลเปเปอร์ลายไม้, วอลเปเปอร์ลายอิฐ ก็ทำให้ดูมีความดิบขึ้นมาได้เหมือนกัน
4.ตกแต่งบ้านแบบ Classic Style
แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าการตกแต่งบ้านสไตล์นี้เน้นความคลาสสิค เอกลักษณ์ของการตกแต่งบ้านสไตล์คลาสสิคคือบ้านจะดูมีความเป็นผู้ดี ดูมีคลาส เมื่อไหร่ก็ตามที่มีแขกมาเยี่ยมบ้านก็ทำให้แขกสัมผัสได้ราวกับอยู่ในดงผู้ดีในยุคก่อนๆ เลยทีเดียว การตกแต่งบ้านสไตล์นี้นิยมใช้ลายไม้กับหินแกรนิตเข้ามาช่วย รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากหนังแท้ ก็จะช่วยให้ดูคลาสสิคขึ้นได้มาก
แต่การตกแต่งบ้านสไตล์นี้ก็จำเป็นต้องคุมให้ดี ต้องดูตัวอย่างให้เยอะจนเริ่มคุ้นเคย เพราะคำว่าคลาสสิคกับโบราณมีเส้นบางๆ กั้นกันอยู่ ถ้าพยายามจะตกแต่งบ้านให้ดูคลาสสิคมากเกินไปอาจจะทำมีความแก่และโบราณเข้ามาครอบงำได้เหมือนกัน จึงไม่ควรให้ทุกเฟอร์นิเจอร์และทุกของตกแต่งดูแก่ไปซะทั้งหมด
5.ตกแต่งบ้านแบบ Vintage Style
เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่เน้นการใช้สีพาสเทล และสีที่ดูสดใส นอกจากนี้ยังเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของประดับที่มีลวดลายดอกไม้มาช่วยในการตกแต่งอีกด้วย ทำให้การตกแต่งบ้านสไตล์นี้มักจะเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อตกแต่งเสร็จแล้วจะดูน่ารักเหมือนบ้านในสไตล์ยุโรปเลยทีเดียว นอกจากนี้ การตกแต่งบ้านในสไตล์วินเทจยังเน้นการนำเอาของเก่าในจากในอดีตมาประยุกต์กับการตกแต่งให้ดูใหม่ยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เลยทีเดียว
6.ตกแต่งบ้านแบบ Contemporary Style
เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ตกแต่งบ้านที่ทำไม่ง่าย และถ้าจะตกแต่งให้สวยก็ยิ่งไม่ง่าย เพราะการแต่งบ้านในสไตล์ Contemporary เป็นการตกแต่งให้บ้านดูมีความร่วมสมัย นั่นคือการตกแต่งโดยนำเอาสไตล์การแต่งบ้านที่เป็นจุดเด่นในอดีตมาผสมผสานกับความทันสมัย ถ้าสามารถจับมาคู่กันได้ลงตัวจะทำให้บ้านดูผสมผสานกันอย่างมีมิติมากยิ่งขึ้น เหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนต์ร่วมสมัยเลยทีเดียว
ตัวอย่าง ที่เห็นอยู่บ่อย ก็อย่างเช่น การนำเอางานศิลปะเก่าๆ หรือเอารูปภาพเก่า มาประดับร่วมกับเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ เห็นแล้วสวยงามมาก ไปอีก แต่ก็ต้องมีไอเดียในการวางร่วมกันให้ดี หรืออีกหนึ่ง ตัวอย่างคือ การตกแต่งบ้านทรงไทยซึ่งมีเอกลักษณ์ในแบบไทยโบราณให้ดูมีความโมเดิร์นไปในตัวก็ทำให้บ้านดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
7. ตกแต่งบ้านแบบ Luxury Style
เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่เน้นความหรูหรา หรือพูดง่ายๆว่าแต่งบ้านให้ดูแพง สไตล์การตกแต่งบ้านนี้จะเน้นไปที่การคุมธีมสีทอง สีเงิน หรือสีโทนเข้มๆ พร้อมกับของตกแต่งที่จะมีความแวววาวดูระยิบระยับไปด้วยความมันวาวของการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ทำให้ดูหรูหราไม่น้อย
สไตล์แบบ Luxury ยังสามารถที่จะแต่งให้ดูหรูหราแบบโมเดิร์น หรือจะดูหรูหราแบบคลาสสิคก็ได้ขึ้นอยู่กับความชอบ ถ้าชอบความทันสมัยก็ให้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่เข้ามาประดับ แต่ถ้าชอบความคลาสสิคก็อาจจะเลือกใช้ของตกแต่งที่มีลายไม้ ก็จะช่วยให้ทั้งสวยหรูและดูคลาสสิคไปในเวลาเดียวกัน
สรุปเรื่องสไตล์ตกแต่งบ้าน
นี่ก็เป็นสไตล์ตกแต่งบ้านทั้ง 7 แบบที่จะช่วยให้คุณสามารถตกแต่งบ้านได้เข้าธีมมากยิ่งขึ้น เลือกเฟอร์นิเจอร์ได้เข้ากันมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายจะช่วยให้การตกแต่งบ้านของคุณสวยงามมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะเริ่มต้นถามว่าจะซื้อของตกแต่งบ้านแบบไหน จะซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบไหน ควรถามตัวเองก่อนว่าจะตกแต่งบ้านด้วยสไตล์ไหนดี จากนั้นจึงค่อยเลือกซื้อของตกแต่งบ้านที่เข้ากับสไตล์ตกแต่งบ้านนั้น บาคาร่า
No comments:
Post a Comment