CASINO ONLINE

CASINO ONLINE
CASINO ONLINE

Saturday, July 6, 2019

ทริคแปลงบ้านให้ประหยัดพลังงาน


บ้าน ในยุคสมัยที่รอบด้านเต็มไปด้วยป้ายประกาศเช่าและขาย อสังหาริมทรัพย์ทำเลดีก็อาจจะขายไม่ออกหรือไม่มีผู้ติดต่อขอเช่า แทนที่จะเรียกความสนใจด้วยการลดราคา เราสามารถเพิ่มมูลค่าให้อสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างความแตกต่างและโดดเด่นกว่าคู่แข่งบ้านใกล้เรือนเคียง

ลองวิธีการสร้างความแตกต่างและเพิ่มความน่าสนใจให้อสังหาริมทรัพย์ของเราแบบง่ายๆ ด้วยการปรับปรุงบ้านให้แปลงสภาพเป็นบ้านประหยัดพลังงาน นอกจากจะช่วยลดโลกร้อนให้กับประเทศชาติแล้ว บ้านประหยัดพลังงานยังช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าไฟสำหรับผู้เช่าหรือผู้ซื้อบ้านต่อจากเราได้ เพียงแค่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดังนี้

ฉนวนกันความร้อน

ตัวช่วยสำคัญในเมืองร้อนที่ช่วยประหยัดค่าไฟจากการเปิดเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอาคารที่ก่อสร้างด้วยปูน บาคาร่า ยิ่งเก็บความร้อน และแผ่กระจายความร้อนอบอ้าวอย่างต่อเนื่องถึงในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งการติดตั้งฉนวนกันความร้อนสามารถปรับสภาพอากาศร้อนทำให้อากาศเย็นลงได้ จากคุณสมบัติของฉนวนกันความร้อนที่ป้องกันความร้อนและสะท้อนรังสีความร้อนออกนอกอาคาร ส่งผลให้อาคารและบ้านเรือนปรับอุณหภูมิภายในเย็นสบายและไม่ร้อนอบอ้าว ทั้งยังช่วยยืดอายุให้กับหลังคาบ้าน และอาคารที่ติดตั้งเพิ่มความทนทานได้ยาวนานขึ้น

นอกจากการป้องกันความร้อนทุกประเภทจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารแล้ว ฉนวนกันความร้อนยังมีประโยชน์สร้างผลพลอยได้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การลดเสียงดังจากภายนอกอาคาร และการช่วยกันรั่ว กันซึมจากน้ำฝนหรือความชื้นของไอน้ำภายนอก รวมทั้งการป้องกันสนิมกับพื้นผิวของโครงเหล็กหลังคา เป็นต้น

สำหรับการติดตั้งควรตรวจสอบบริเวณที่จะติดตั้งก่อนทำการติดตั้ง เช่น การรับน้ำหนักของฝ้าเพดาน เพื่อเลือกฉนวนกันความร้อนได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน โดยควรเลือกฉนวนกันความร้อนที่มีความหนาประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ซึ่งฉนวนหลังคาและผนังมีหลายชนิด ได้แก่ ฉนวนใยแก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ และฉนวนเซรามิก

แสงและลมธรรมชาติ

สำรวจรอบบ้านให้ทั่ว เพื่อมองหามุมมืดที่สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สว่างไสวได้จากแสงธรรมชาติ หรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ภายในบ้านให้เลือกแบบโปร่งแสงในจุดที่ต้องการความสว่าง เช่น เปลี่ยนวัสดุมุงหลังคาหรือแผ่นฝ้าให้เป็นวัสดุโปร่งแสง การใช้ผ้าม่าน 2 ชั้น เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีทางเลือก ทั้งในเวลาที่ต้องการแสงสว่างธรรมชาติ และเวลาที่ไม่ต้องการให้แสงแดดผ่านมากเกินไปจนมีผลต่ออุณภูมิของห้อง โดยพยายามติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้เพียงพอในการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการติดตั้งหน้าต่างด้านทิศตะวันออกและตะวันตก

ขณะเดียวกันเรายังสามารถใช้ลมธรรมชาติช่วยประหยัดพลังงานได้ โดยเฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง ให้ทุกส่วนมีทางให้ลมเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการสะสมความร้อนภายในบ้าน พร้อมจัดแบ่งห้องต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ห้องที่ใช้ตอนเช้าควรอยู่ด้านทิศตะวันออก ห้องที่ใช้เกือบทั้งวันควรอยู่ด้านทิศเหนือ เช่น ห้องนั่งเล่น เนื่องจากจะได้รับอากาศเย็นสบายมากที่สุด และจัดวางตู้หรือชั้นวางของให้ไม่บังลมหรือกีดขวางการระบายอากาศ รวมทั้ง การติดตั้งพัดลมระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไปภายนอก



ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com

No comments:

Post a Comment